top of page

เลิกจัดการดอกเบี้ย เพราะนั่นไม่ใช่วิธีแก้ที่ต้นเหตุ

Updated: Jul 9, 2024




ในช่วงเดือนมิถุนายนและธันวาคมของทุกปี

ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยกัน

“จ่ายดอกเบี้ย” เงินฝาก

ให้แก่ลูกค้าคนที่มีเงินอยู่ในบัญชีธนาคารนั้นๆ

.

เหตุผลที่ธนาคารต้องจ่ายดอกเบี้ย

ก็เป็นเพราะว่า เราไม่เพียงแต่จะเป็นลูกค้า

ของธนาคารเท่านั้น

แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ

เราเป็น “เจ้าหนี้” ของธนาคารด้วย

.

นั่นหมายความหมายว่า

ในฐานะที่ธนาคารเป็นลูกหนี้ของเรา

ธนาคารจึงจำเป็นต้อง “จ่ายดอกเบี้ย”

ให้แก่ลูกหนี้หรือผู้ฝากอย่างเราด้วย

.

หรือจะพูดอีกอย่างว่า การที่เราเอาเงิน

ไปฝากธนาคาร ก็เหมือนเราเอาเงิน

ไปให้ธนาคาร “ยืม” นั่นเอง




คำถามคือ ธนาคารทั่วไป

ที่เราใช้บริการกันอยู่ทุกวันนี้

เค้าเอาเงินที่เราฝากไว้ไปทำอะไร ?

คำตอบที่คุณน่าจะรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมครับ

.

ฉะนั้น ถ้าจะให้พูดกันให้แรงก็คือ

มุสลิม “ห้าม” ไปฝากเงินหรือใช้บริการ

ธนาคารที่มีดอกเบี้ย เนื่องจากเข้าข่าย

การช่วยเหลือการในเรื่องการทำความชั่ว

.

แต่ แต่ แต่ ผมคงไม่กล้าพูดขนาดนั้น

เนื่องจากในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า

เรายังมี “ความจำเป็น” ต้องใช้ธนาคาร

เหล่านี้อยู่ด้วยกับหลายๆ เหตุผล

ที่คุณก็น่าจะรู้ดีเช่นกัน

.

ประเด็นคือ เมื่อธนาคารเหล่านี้

มีการจ่ายดอกเบี้ย ก็จะมีบุคคล กลุ่มบุคคล

หรือองค์ที่ออกมา “อาสา” รับจัดการดอกเบี้ย

“เพื่อสาธารณะประโยชน์”



ขณะเดียวกันก็มีทั้งคนที่ “เห็นด้วย”

และ “ไม่เห็นด้วย” กับการกระทำดังกล่าว

.

ซึ่งผลจะลองตั้งคำถามกับคุณว่า

ในเมื่อเราไม่สามารถเอาดอกเบี้ย

มากินมาใช้ประโยชน์ได้

กรณีเมื่อมีดอกเบี้ยเข้ามา

เราจะจัดการกับมันอย่างไร ดังนี้

.

1) เก็บไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรกับมันทั้งสิ้น

คือ ไม่ต้องโอนออกไปไหน เก็บไว้ในบญชีแบบเดิม

.

2) เอาออกมา เผา ทิ้ง ทำลาย โยนลงทะเล

หรืออื่นๆที่ลักษณะคล้ายกันกับการทิ้งหรือทำลาย

.

3) บริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์ เช่น ห้องน้ำ สะพาน กำแพง ทางสัญจร ที่เป็นของสาธารณะ

.

และลองมาดู “ข้อตัดสิน” ของแต่ละวิธี

       วิธีแรก หากเก็บไว้ที่เดิม

หรือยังคงอยู่ในธนาคารเดิม เงินนั้น

ก็จะยังคง “ช่วยเหลือ” หรือส่งเสริม

ธนาคารนั้น หรือทำให้ธนาคารนั้น

ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยนั้นต่อไป

.

หรือเรียกว่าเป็น “ดอกเบี้ยทบต้น” ไปเรื่อยๆ

ซึ่งอันนี้ ก็เข้าข่ายการช่วยเหลือการในเรื่องการทำความชั่ว (ข้อนี้ตัดไป)

.

ฉะนั้น แสดงว่ายังไงเราก็ต้อง “ถอนออกมา”

.

            วิธีที่สอง เอาออกมา แต่เอาไปเผา

ทำลาย ทิ้ง หรือโยนลงทะเล

วิธีนี้เข้าข่าย “การทำลายทรัพย์สิน”

หรือ “ทำให้เสียทรัพย์” ถือเป็นสิ่งต้องห้าม

ตามหลักการอิสลาม อีกทั้ง ยังผิดกฎหมายอีกด้วย

            วิธีที่สาม บริจาคเพื่อสาธารณะประโยชน์…..

แต่ก่อนอื่น ผมขอทำความเข้าใจ

ในประเด็น “เงินดอกเบี้ย” ก่อนครับ

.

ผมขอถามคุณว่า “เงินดอกเบี้ย”

คือเงินของใคร ? ใช่เงินของเราไหม ?

คำตอบคือ เงินดอกเบี้ย “ไม่ใช่เงินของเรา”

ถึงแม้มันจะเป็นเงินที่งอกมาจากบัญชีของเราก็ตาม

.

ต้นสายของมันก็คือ “เงินดอกเบี้ย”

ฉะนั้น เมื่อมันเป็นดอกเบี้ย ถ้ามันอยู่ที่เรา

แล้วมัน “ฮารอม” ก็จำเป็นที่เราจะต้อง

.

เอาออกหรือย้ายออกไปให้ “พ้นจากตัวเรา”

ไปสู่คนที่ไม่ฮารอม หรือสถานที่ที่ไม่ฮารอม

เช่น สะพาน ท่าเรือ ทางเดิน กำแพง

ที่เป็นสาธารณะประโยชน์

.

คำถามต่อมาคือ ถ้าบริจาคให้

สาธารณะประโยชน์แล้ว

จะเป็น “ซอดาเกาะห์” ไหม ?

.

คำตอบคือ ไม่เป็นครับ

เพราะ “อัลลอฮคือผู้ที่ดี

อัลลออฮจะไม่ตอบรับเว้นแต่จะเป็นสิ่งที่ดี” (อัลฮาดิษ)

.

เมื่อดอกเบี้ยคือสิ่งที่ไม่ดี

ฉะนั้น ต่อให้เราไปทำสิ่งดี

ก็จะไม่ได้ผลบุญของการซอดาเกาะห์

.

ในส่วนของ “ผลบุญ” ที่เราจะได้

จากการบริจาคให้สาธารณะประโยชน์

จะไม่ได้มาจากการบริจาค

.

แต่มันจะมาจากการที่เรา “หลีกห่าง”

จากทรัพย์ที่ฮารอม และไม่ได้เอามัน

มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง

.

อีกทั้ง เรายังได้ผลบุญ

จากการเป็น “สื่อกลาง”

ในการย้ายทรัพย์ที่ฮารอม

จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง

ที่ไม่ได้ฮารอมที่คนอื่น หรือสถานที่อื่น

.

ฉะนั้น วิธีการจัดการกับดอกเบี้ยที่ดีที่สุด

ก็คงจะเป็น วิธีที่สามคือ “บริจาคให้สาธารณะประโยชน์” ซึ่งมีทัศนะจากนักวิชาการ

รองรับสิ่งดังกล่าวไว้แล้ว

หนึ่งในนั้นคือ (เชคยูซุฟ อัลกอรฎอวีย์)

.

อย่างไรก็ตาม การบริจาคให้สาธารณะประโยชน์ ไม่ใช่วิธีการ “แก้ปัญหา” ที่ต้นเหตุหรือวิธีการแก้ที่ “ยั่งยืนถาวร” ฉะนั้น การ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ย่อมเป็นทางที่ดีที่สุด นั่นคือการที่เราไม่ไปใช้บริการธนาคารดอกเบี้ยตั้งแต่แรก

.

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันเรา

มีสถาบันการเงินฮาลาล เช่น ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยและสหกรณ์อิสลามแล้ว

.

ซึ่งธนาคารอิสลามฯเอง หรือสหกรณ์อิสลามบางแห่งเขาก็มีแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานได้สะดวกแล้ว

.

ไม่ว่าจะฝาก ถอน โอน ก็สามารถทำได้

เหมือนธนาคารทั่วไป

ฉะนั้น สมควรอย่างยิ่งที่เราต้อง

ไปสนับสนุนและใช้บริการช่องทางที่ฮาลาล

.

     สรุปคือ

    1)ถ้ามีดอกเบี้ยเข้ามา ก็ให้เอาไปบริจาค

ให้สาธารณะประโยชน์ได้

    2)แต่ถ้าไม่อยากกังวลเรื่องดอกเบี้ย

ก็ให้ไปใช้บริการสถาบันการเงินที่ฮาลาลตั้งแต่แรก

.

ผมว่าหวังในอนาคตอันใกล้นี้

เราคงไม่ต้องถกเถียงกันในประเด็นนี้อีกว่า

“ทำได้”หรือ “ไม่ได้”

และเราจะ “เลิกจัดการดอกเบี้ย” สักที

เพราะเราทุกคนจะหันไปใช้บริการ

สถาบันการเงินที่ฮาลาล เท่านั้น


อีกอย่างนึงที่อยากฝาก หลายคนชอบพูดว่า

“ธนาคารอิสลามไม่มีแอพฯ ไม่สะดวก

เหมือนธนาคารทั่วไป หรือสหกรณ์อิสลามก็ยุ่งยาก”

.

ผมไม่เถียงนะครับ ในสิ่งที่บางคนพูด แต่ผมอยากถามคุณว่า ถ้าคุณไม่ใช้บริการธนาคารอิสลาม

ถ้าคุณไม่ใช่บริการสหกรณ์อิสลาม

สถาบันการเงินเหล่านี้เค้าจะเอาเงิน

ที่ไหนไปพัฒนาแอพพลิเคชั่น ?



หรือถ้าเค้าพอจะทำแอพฯได้

เค้าก็ไม่คุ้มอยู่ดีที่จะทำ เนื่องจาก

คนใช้บริการน้อย ในขณะที่กระบวนการ

หลายอย่างย่อมต้องขับเคลื่อนด้วย “เงิน”

และผู้ใช้บริการหรือลูกค้า

ฉะนั้น เรามาช่วยกันครับ

ช่วยทำให้สถาบันการเงินอิสลาม

ในประเทศไทยเข้มแข็ง

.

เพื่อวันนึงเราจะมีแหล่งเงินทุน

ที่เป็น “ที่พึ่ง” และเป็น “ทางหลัก”

ของมุสลิมเราอย่างแท้จริง

.

อินชาอัลลอฮ

.

.

เขียนโดย #moneyhalal

#รวยโลกนี้_สำเร็จโลกหน้า

Comments


bottom of page